วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

ประวัติรถยนต์ฮอนด้า



ฮอนด้า HONDA

ในแวดวงโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าเป็นทารก แต่ในหมู่สิงห์มอเตอร์ไวด์ฮอนด้าเป็นเสือผงาดแผดเสียงไปทั่วโลกที่ได้รับความนิยมชมชอบเป็นหนึ่ง จะเรียกเป็นหนึ่งเดียวก็ย่อมได้มิผิดเลย เมื่อฮอนด้าหันมาเล่นรถยนต์เขาก็เป็นหนึ่งในเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายมิผิดเลยอีก เจ้าพ่อนายโซอิชอโร ฮอนด้า เป็นเสมือนเทวดาส่งมาเกิด จะทำมอเตอร์ไซด์หรือจะทำรถยนต์เขาดังระเบิดปังแล้วปังอีก มันดังสนั่นมิใช่ในเมืองญี่ปุ่นเท่านั้นแม้ฟ้าอเมริกาอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นดูแลแคบเกินไปสำหรับชื่อฮอนด้าของเขาไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์หรือรถยนต์ที่มันแผดดังไปทั่วทุกทิศ ฮอนด้า ฮอนด้า ฮอนด้า ใคร ๆ ก็รักและชอบเขาเผยโฉมรถฮอนด้าออกมาและตั้งแต่นั้นมาบริษัทฮอนด้าเป็นบริษัทสร้างรถยนต์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในปี 1970 รัฐบาลอเมริกาประกาศควบคุมควันพิษไอเสียของเครื่องยนต์ บริษัทฮอนด้าไม่รอช้าเข็นเจ้าหนู “ซีวิค” ที่มีระบบควบคุมเรื่องควันพิษได้ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่นนั้นก็คือเครื่องยนต์ “ซีวีซีซี” มันดังยิ่งขึ้นทั่วอเมริกาเมื่อนักเขียนเรื่องรถยนต์ดัง ฮอนด้ามีพนักงาน 79,200 คน รายได้ปีละ 27,000 ล้านดอลลาร์ กำไร 572 ล้านดอลลาร์ บริษัทเริ่มตั้งเมื่อปี 1948 หุ้นเมื่อปี 1980 มีค่าเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ดอลลาร์ เป็น 5,449 ดอลลาร์ในปี 1990 ได้แชมป์จำหน่ายมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1989 ทำให้ฮอนด้าเปลี่ยนเป็นยักษ์ใหญ่อันดับที่ 4 ของโรงงานผลิตรถยนต์อเมริกันในสหรัฐอเมริกา และเมื่อรวมฮอนด้าสร้างในสหรัฐอเมริกาและฮอนด้าอิมปอร์ตเข้าสหรัฐอเมริกาจากญี่ปุ่น ทำให้ฮอนด้าขายนำโตโยต้าและนิสสันด้วยการครองตลาดจากสหรัฐอเมริกามีส่วนแชร์ 7.6 เปอร์เซ็นต์ ไม่แต่จะนำตลาดในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น “ฮอนด้า” เมดอิน ยูเอสเอ” เป็นความภูมิใจของชาวซามูไรที่ไปทำชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา กลายเป็นรถอเมริกันอิมปอร์ตเข้าไปขายในญี่ปุ่นที่ชาวซามูไรต้องการนักหนาที่จะเป็นเจ้าของ มันล้ำหน้าฟอร์ดและจี เอ็ม. หายห่วงไปหลายห่วงเลย

นายโซอิชิโร ฮอนด้า ไม่เคยเรียนในมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่เข้าใกล้ แต่เขามีสมญาว่า “เฮนรี่ ฟอร์ด ออฟ เจแปน” ต้นปี 1990 “ออโตโมติฟ นิวส์” เผยว่าแชมป์ประจำปี 1989 คือฮอนด้า แอคคอร์ด ขายได้มากถึง 362,707 คันที่จ่อมาอันดับสองคือฟอร์ด เอสคอร์ด ขายได้เป็นอันดับที่สาม 333,535 คันคือ จีเอ็ม คอร์วอดาและแบเรตตาขายได้ 326,006 คัน ฟาดอันดับที่สี่ และจีเอ็ม คาวาลิเออร์ เป็น อันดับที่ห้า ขายได้ 295,715 คัน จะเห็นว่าฮอนด้าเป็นเสือหนุ่มคึกคะนองขนาดไหน มันแข็งแรงไม่มีรถยนต์อเมริกันรุ่นไหนปราบลงได้ พอมองไปที่อันดับที่หกเป็นค่ายญี่ปุ่นอีก คือโตโยต้า แคมรี่ ขายได้ 257,466 คัน อันดับที่เจ็ดเป็นของฮอนด้า ซีวิ ขายได้ 235,452 คัน ฟอร์ด เท็มโป ขายได้ 228,426 คันเป็นอันดับที่แปด อันดับที่เก้านิสสัน เซนตรา ขายได้ 221,292 คัน และจีเอ็มแกรนด์แดม ขายเป็นอันดับสุดท้ายคอ 202,815 คัน จะเห็นว่าใน “ท็อปที่ 10” นี้มีฮอนด้าและฟอร์ดเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันถึงพริกถึงขิงเผ็ดมันมากที่สุดคือฟอร์ด เทารัส ตามประกบฮอนด้า แอคคอร์ดและฟอร์ด เทมโปตามประกบฮอนด้า ซีวิค เป็นคู่ ๆ ไม่ยอมห่าง และฟอร์ดทำได้สำเร็จหลังจากนั้นเพียงสองปี แอคคอร์ดก็แพ้เจ้าเทารัสไปจนได้โดยที่คนอเมริกาเองก็ไม่คาดฝันจะเป็นไปได้ เมื่อนายโซอิชิโร ฮอนด้าเสนอไปทางกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมต่างประเทศแห่งญี่ปุ่นว่าเขาจะสร้างรถยนต์ฮอนด้าทางกระทรวงค้านว่าญี่ปุ่นไม่ต้องการรถยนต์มากกว่านี้อีกแล้ว
อย่าสร้างขึ้นมาเลยจะตีกันเองเปล่า ๆ แต่เขาไม่สนใจ เริ่มปี 1962 บร็อค เยตส์ ได้เขียนชมเชยว่านอกจากมีควันพิษน้อยที่สุดแล้ว เจ้าหนู “ซีวิค” ยังเป็นรถที่ดีเยี่ยม แข็งและวิ่งทนไม่แพ้เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยูกับพอร์สช แห่งประเทศยุโรปเลย ในปี 1981 มีเสียงบ่นกันทั้งคนญี่ปุ่นและคนอเมริกันว่า สหรัฐอเมริกาไม่มีใครสร้างรถยนต์ดี ๆ ขึ้นมาใช้ มีแต่รถห่วย ๆ นายโซอิชิโรค้านว่าไม่จริงครับในสหรัฐอเมริกามีคนทำได้ เขาจะทำให้สหรัฐอเมริกามีชื่อเองในการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดขึ้นที่เมืองแมรีสวิลล์ รัฐโอไฮโอ พอถึงปี 1982 ฮอนด้า แอคคอร์ด “เมด อิน ยูเอสเอ” ก็เผยโฉมออกมาด้วยการสร้างของอเมริกัน ในโรงงานสหรัฐอเมริกา มันมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมที่คนอเมริกันภูมิใจที่มันเป็นรถยนต์ที่ผลิตในอเมริกา และอุดหนุนช่วยกันซื้อ ยอดขายมันเพิ่มขึ้นทุกปีจนสร้างแทบไม่ทัน จนถึงปี 1989 ฮอนด้า แอคคอร์ด กลายเป็นแชมป์มียอดจำหน่ายมากสุดในอเมริกาฮอนด้า แอคคอร์ดใช้เวลาการเป็นแชมป์ในสหรัฐอเมริกาเพียง 7 ปีเท่านั้น ไม่น่าเชื่อเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น